ประวัติฟุตบอลโลก หรือที่ทั่วโลกเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า FIFA World Cup ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลระหว่างประเทศร่วมกัน โดยการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1930 และจะจัดการแข่งขันทุกๆ 4 ปี แต่ได้มีการยกเว้นไปในปี ค.ศ. 1942 และ ค.ศ. 1946 เพราะเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

การแข่งขันฟุตบอลโลกที่มีมาแล้วทั้งหมด 21 ครั้ง มีประเทศที่ชนะการแข่งขันทั้งหมด 8 ประเทศ คือ ทีมชาติบราซิล 5 ครั้ง, ทีมชาติอิตาลี 4 ครั้ง, ทีมชาติเยอรมนี 4 ครั้ง, ทีมชาติอาร์เจนตินา 2 ครั้ง, ทีมชาติอุรุกวัย 2 ครั้ง, ทีมชาติฝรั่งเศส 2 ครั้ง ทีมชาติอังกฤษ 1 ครั้ง และทีมชาติสเปน 1 ครั้ง

ตั้งแต่การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1930 มีประเทศที่เคยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกมาแล้ว 17 ประเทศ และในฟุตบอลโลก 2022 ปีนี้ เจ้าภาพคือประเทศกาตาร์ ส่วนเจ้าภาพในอีก 4 ปีถัดไป คือฟุตบอลโลกปี 2026 จะมีเจ้าภาพร่วม 3 ชาติ คือ ประเทศแคนาดา, ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศเม็กซิโก ซึ่งประเทศเม็กซิโกถือเป็นประเทศแรก ที่ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกถึง 3 ครั้ง

ประวัติฟุตบอลโลก ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง และช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในช่วงแรก เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งจากเรื่องการเดินทางข้ามทวีป และเรื่องสงคราม แต่ก็ยังมีทีมจากอเมริกาใต้บางทีม ที่ยินดีจะเดินทางไปยุโรป เพื่อการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 1934 และ ค.ศ. 1938 โดยมีทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นทีมเดียวในอเมริกาใต้ ที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้ง 2 ครั้งนี้

ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 1942 และ ค.ศ. 1946 ต้องถูกยกเลิกไป เพราะสงครามโลกครั้งที่สอง และผลกระทบของสงครามโลก หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง การแข่งขันฟุตบอลโลก ค.ศ. 1950 ได้จัดขึ้นที่ประเทศบราซิล และในปี ค.ศ. 1998 ก็มีการขยายทีมแข่งขันจาก24 ทีมเป็น 32 ทีม ทำให้มีทีมชาติจากแอฟริกา เอเชีย และอเมริกาเหนือ สามารถผ่านเข้ารอบได้มากขึ้น

รูปแบบการแข่งขันฟุตบอลโลก

1. รอบคัดเลือก – ในการแข่งขันในแต่ละครั้ง ทางฟีฟ่าจะเป็นผู้กำหนดล่วงหน้า ว่าจะมีกี่ทีมที่จะได้เข้าสู่รอบสุดท้าย ส่วนกระบวนการคัดเลือก จะเริ่มต้นเกือบ 3 ปี ก่อนที่จะแข่งรอบสุดท้าย ซึ่งรูปแบบของการแข่งขันรอบคัดเลือก จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับทางฟีฟ่าเช่นกัน

2. รอบสุดท้าย – จะมีทีมชาติจาก 32 ประเทศที่เข้าร่วมแข่งขัน โดยจะใช้เวลาแข่งขันกันประมาณ 1 เดือน แบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบแรกหรือรอบแบ่งกลุ่ม และรอบแพ้คัดออก

2.1 รอบแบ่งกลุ่ม จะมีการแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมี 4 ทีม แต่ละทีมในกลุ่มจะแข่งแบบพบกันหมด หรือแข่งกับทีมอื่นๆ ในกลุ่มจนครบ จากนั้นทีมที่มีคะแนนสูงสุด 2 อันดับแรกในกลุ่ม จะได้เข้าสู่รอบแพ้คัดออก

2.2 รอบแพ้คัดออก จะแข่งกันเพียงครั้งเดียว โดยเริ่มที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ผู้ชนะจะได้เข้าแข่งต่อในรอบ 8 ทีมสุดท้าย นำไปสู่รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศต่อไป

การคัดเลือก ‘ประเทศเจ้าภาพ’ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก

การคัดเลือกประเทศเจ้าภาพในครั้งแรกๆ สถานที่จัดการแข่งขันมักเกิดความขัดแย้ง เพราะทวีปอเมริกาใต้และยุโรปไกลเกินกว่าจะเป็นศูนย์กลางของการแข่งขัน โดยการตัดสินใจเลือกประเทศอุรุกวัย เป็นประเทศเจ้าภาพครั้งแรกนั้น มีทีมจากประเทศยุโรปเพียง 4 ทีม ที่เข้าร่วมการแข่งขัน

ดังนั้น ตั้งแต่ฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 1958 เป็นต้นมา เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ทางฟีฟ่าจึงได้กำหนดรูปแบบที่ชัดเจน ว่าจะเลือกประเทศเจ้าภาพ แบบสลับกัน 2 ทวีป ระหว่างทวีปอเมริกาและทวีปยุโรป จนมาถึงฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 2002 ที่ประเทศเจ้าภาพคือเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกขึ้นในทวีปเอเชีย และเป็นการจัดขึ้นโดยมีเจ้าภาพร่วมกัน ต่อมาในฟุตบอลโลกปี ค.ศ. 2010 ประเทศแอฟริกาใต้ ก็เป็นชาติแรกในทวีปแอฟริกาที่ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก

โดยการคัดเลือกประเทศเจ้าภาพ จะทำผ่านการลงคะแนนจากคณะผู้บริหารระดับสูงของฟีฟ่า โดยสมาคมฟุตบอลแห่งชาติของแต่ละประเทศ ที่ต้องการเสนอตัวเองในการเป็นเจ้าภาพ จะได้รับหนังสือข้อตกลงการเป็นประเทศเจ้าภาพ จากนั้นฟีฟ่าจะแต่งตั้งคณะผู้ตรวจสอบ ให้เดินทางไปยังประเทศที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ เพื่อทำการตรวจสอบ ซึ่งการตัดสินใจคัดเลือกว่า ประเทศใดจะได้เป็นประเทศเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลโลกนั้น จะตัดสินใจล่วงหน้า 6-7 ปี และในบางครั้งก็อาจมีประเทศเจ้าภาพหลายเจ้าภาพในเวลาเดียวกันได้

รางวัลอื่นๆ ในการแข่งขันตาม ประวัติฟุตบอลโลก

หลังจบการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในแต่ละปี จะมีการมอบรางวัลให้กับทีมและผู้เล่นในด้านต่างๆ 6 ด้าน ได้แก่

1. รางวัลบอลทองคำ เริ่มมีการมอบรางวัลครั้งแรกในปี ค.ศ. 1982 โดยจะมอบให้ผู้เล่นยอดเยี่ยม ที่ได้รับการลงคะแนนจากสื่อมวลชน และรางวัลบอลเงินกับบอลทองแดง ที่จะมอบให้กับผู้เล่นยอดเยี่ยมอันดับ 2 และอันดับ 3

2. รางวัลรองเท้าทองคำ เริ่มมีการมอบรางวัลครั้งแรกในปี ค.ศ. 1982 โดยจะมอบให้ผู้ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และรางวัลรองเท้าเงินกับรองเท้าทองแดง ที่จะมอบให้กับผู้ทำประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอันดับ 2 และอันดับ 3

3. รางวัลถุงมือทองคำ หรือที่เดิมใช้ชื่อว่ารางวัลยาชิน เริ่มมีการมอบรางวัลครั้งแรกในปี ค.ศ. 1994 โดยจะมอบให้กับผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ซึ่งจะตัดสินโดยกลุ่มศึกษาด้านเทคนิคฟีฟ่า

4. รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม เริ่มมีการมอบรางวัลครั้งแรกในปี ค.ศ. 2006 โดยจะมอบให้กับดาวรุ่งยอดเยี่ยมที่อายุไม่เกิน 21 ปี ซึ่งจะตัดสินโดยกลุ่มศึกษาด้านเทคนิคฟีฟ่า

5. รางวัลทีมเล่นขาวสะอาด เริ่มมีการมอบรางวัลครั้งแรกในปี ค.ศ. 1978 โดยจะมอบให้กับทีมที่มีสถิติการเล่นขาวสะอาดที่สุด ซึ่งจะนับจากระบบการให้คะแนนและเกณฑ์ของฟีฟ่า

6. รางวัลทีมที่เล่นได้สนุกที่สุด เริ่มมีการมอบรางวัลครั้งแรก ค.ศ. 1994 โดยจะมอบให้กับทีมที่ให้ความบันเทิงกับผู้ชมมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งจะตัดสินจากแบบสำรวจผู้ชม

หากอยากแทงบอลออนไลน์ให้ปลอดภัย ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ควรเลือกใช้บริการจากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือและได้มาตรฐานสากล แบบเว็บไซต์ ufa-thai.com ซึ่งเป็นเว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์ และได้รับสิทธิจากบริษัทแม่ในต่างประเทศ UFABET จึงการันตีได้เลยว่าไม่ต้องกลัวโดนโกง จ่ายหนัก ฝากถอนเงินสะดวก และมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง

---

หากสนใจแทงบอลออนไลน์ สามารถสมัครสมาชิกกับเว็บเราได้ง่ายๆ 2 วิธีดังนี้

1. สมัครผ่านลิ้งสมัครสมาชิกในหน้าเว็บ member.ufa-thai.com

2. สมัครผ่านไลน์ @ufa-th หรือ https://line.me/ti/p/@ufa-th

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ @ufa-th